อสม.นักสร้างสุขแห่งแผ่นดิน
ในที่สุดสังคมไทยและสังคมโลกก็ได้เห็นคุณค่าของ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ในช่วงระบาดของโควิด-19 แต่ความเป็นจริง อสม. ของประเทศไทยได้สร้างผลงานด้านสาธารณสุขให้กับแผ่นดินไทย ตลอดมาเป็นระยะเวลายาวนานถึง 43 ปี
ปี พศ.2520 เป็นปีแห่งการก่อเกิด อสม.ในประเทศไทย อันเกิดจากความมีวิสัยทัศน์และความฉลาดของปูชนียบุคคลแห่งวงการแพทย์และสาธารณสุขไทยจำนวนหลายท่าน ได้สร้าง อสม. ขึ้นมาคู่ขนานไปกับการปฏิวัติระบบการสาธารณสุขไทย คืองานสาธารณสุขมูลฐาน (Primary Health Care) ที่ใช้แนวคิด สร้างนำซ่อม และ พัฒนาให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้
ความหมายที่แท้จริงของคำว่า “อสม.”ในยุคเริ่มแรกคือ ผู้อาสามาสร้างสุขให้คนในครอบครัว เพื่อนบ้านและชุมชนของตนเอง รากเหง้าการก่อเกิด อสม.ในสังคมไทยมาจาก รากวัฒนธรรมความเป็นเครือญาติ ความเอื้ออาทร แบ่งปัน ความเสียสละ ความมีจิตเมตตาและจิตอันเป็นกุศล
ที่ฝังแน่นอยู่ในตัวตนคนไทย ด้วยเหตุที่มีรากเหง้าอันแข็งแรง จึงทำให้ อสม. ยังอยู่ยงคงกระพันมานานเกือบครึ่งศตวรรษ ในขณะที่หลายประเทศได้ล่มสลายไปแล้ว
การก่อเกิด อสม. เป็นนวัตกรรมทางสุขภาพที่งดงามยิ่งของสังคมไทย จนถึง ณ วันนี้ อสม. จำนวน 1,040,000 คนทั่วแผ่นดินไทย ได้กลับกลายเป็นพลังด้านสุขภาพที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
เพราะ อสม. เป็นฐานรากของสุขภาพ ที่แทรกอยู่ในทุกอนูเซลล์ของแผ่นดินไทย เป็นพลังการสื่อสารสาธารณสุขที่ทรงประสิทธิภาพ และที่สำคัญเป็นที่พึ่งพิงให้กับประชาชนระดับฐานราก ทั้งในยามปกติและวิกฤต
ตลอดระยะเวลา 43 ปีที่ผ่านมา อสม. ได้กลับกลายเป็นกองทัพนักสร้างสุขภาพที่สังคมไทยภูมิใจยิ่ง ได้สร้างสรรผลงานสร้างสุขให้คนไทยไว้มากมาย ยากที่จะนำมาบอกกล่าวได้หมด
โดยเฉพาะงานโภชนาการเป็น 1 ใน 8 งานสาธารณสุขมูลฐาน ที่ อสม. ได้สร้างผลงานเชิงประจักษ์ เล่นบทบาทสำคัญในการค้นหา วางแผน และแก้ไขปัญหาเด็กขาดสารอาหารได้ด้วยตนเอง จากร้อยละ 49 ในปี พศ. 2525 เหลือเพียงร้อละ 8 ภายใน 7-8 ปี จนองค์การยูนิเซฟยกย่องว่าเป็นประเทศที่ลดภาวะขาดสารอาหารได้รวดเร็วที่สุดในโลก ต่อมาประเทศไทยได้กลายเป็นโรงเรียนสอนประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก
ในอดีต อสม. เป็นผู้ร่วมขจัดโรดโปลิโอ ไข้เลือดออก ไข้หวัดนก โรคซาร์ ตลอดจนงานแม่และเด็ก งานส่งเสริมสุขภาพด้านต่างๆ อาทิ เล่นบทบาทผู้นำการเปลี่ยนแปลงภายใต้โครงการคนไทยไร้พุง เฝ้าระวังและค้นหาปัญหาเพื่อการควบคุมป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs) ร่วมแก้ปัญหายามสังคมไทยเกิดวิกฤตภัยทางธรรมชาติ อุทกภัย สึนามิ
ทั้งหมดเป็นเพียงตัวอย่าง แต่ยังมีผลงานอื่นอีกมหาศาล การแสดงบทบาทของ อสม. ในช่วงระบาดโควิด -19 คือองค์ประกอบสำคัญอันหนึ่ง ที่องค์การอนามัยโลกและหลายประเทศได้ยกย่องประเทศไทย ในการควบคุมโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เราก็อยากจะเห็น การพัฒนา อสม. ให้มีศักยภาพสูงขึ้นต่อไปอีก
หากจะพัฒนา อสม. ในกาลอนาคตโดยเฉพาะหลังโควิค-19สงบลง ในมุมมองของผู้เขียนฐานะเป็นผู้หนึ่งที่ร่วมพัฒนาและทำงานร่วมกับ อสม. มานานกว่า 40 ปี โดยมีอาจารย์นายแพทย์อมร นนทสุต เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ อยากเห็นภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำบทเรียนจากโควิด-19 มาเป็นฐานข้อมูลในการพัฒนา อสม. จึงขอเสนอข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 3 ประการคือ
1) ลงทุนอย่างจริงจังเพื่อพัฒนา อสม. ให้เป็น “คนต้นแบบด้านสุขภาพ” ของชุมชน จะทำอย่างไรที่จะให้ อสม. มีความฉลาดรอบรู้ด้านสุขภาวะ (Health literacy) ให้มากขึ้น จนสามารถพัฒนาตนเองและคนในครอบครัว ให้เป็นแบบอย่างเพื่อนบ้านได้อย่างแท้จริง
2) ลงทุนอย่างจริงจังที่จะต้องพัฒนา อสม. ให้มีศักยภาพสูงในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
(Change Agents) ด้านการส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค คงไม่ใช่แค่ยัดเยียดองค์ความรู้สุขภาพ แต่ต้องพัฒนา อสม. ให้เก่งด้านการจัดการด้านสุขภาพชุมชน และลงทุนสนับสนุนให้มีศักยภาพด้านการสื่อสารสุขภาพสู่สาธารณะ
3)ลงทุนสร้าง อสม. ให้มีจิตวิญญาณการทำงานแบบเสียสละตามอุดมการณ์เดิม สร้างให้ อสม.มองเห็นคุณค่าในตัวตน ด้วยการสร้างแรงจูงใจ ที่ไม่ใช่ตัวเงิน เพื่อให้ อสม. เกิดพลังทำงานอย่างมีความสุข มีศักดิ์ศรี และสามารถลุกขึ้นมาแสดงบทบาทในการดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว ชุมชน และสังคมโดยรวมด้วยจิตสำนึกสาธารณะและมีศรัทธาในการพัฒนาอย่างเต็มที่
สรุป เมื่อโลกเปลี่ยนหลังโควิด-19หยุดระบาด เราต้องเปลี่ยนทิศทางความคิดใหม่ (mind set) ในการสร้างบทบาท อสม. ให้เน้นการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค มากว่า การให้ อสม. มาเล่นบทบาทหนักในการแก้ไขปัญหาและรักษาโรค หรือคอยตั้งรับปัญหา โควิด- 19. ไม่ใช่โรคสุดท้ายที่จะเป็นอุบัติโรคใหม่ แต่บทเรียนที่ได้รับครั้งนี้ เราคงไม่ได้มองและชื่นชมคุณค่าของ อสม. แต่เราจะช่วย อสม. ให้ครองงานอย่างมีความสุขได้อย่างไร
ความดีงามที่ อสม. ได้รังสรรไว้กับแผ่นดินนี้ มิสามารถตีค่าออกมาเป็นมูลค่าและตัวเงินได้ แต่ความมีคุณค่าของ อสม. ควรถูกสรรเสริญ คงไม่ผิดจากความจริงมากนักที่จะกล่าวว่า....” อสม. คือนักสร้างสุขให้มวลไทย ที่มีความยิ่งใหญ่มากพอที่จะเป็นครูผู้สอนสังคมไทย ให้ปรับกระบวนทัศน์ในการพัฒนาประเทศด้านสุขภาพและสังคม จนกลายเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่าแก่คนทั่วโลก”.
สง่า ดามาพงษ์ (มติชน วันอาทิตย์ที่ 26 เมย. 2563)
- suthichai live
- Streamed live 87 minutes ago
- สนทนากับ
- อ สง่า ดามาพงษ์
- นักวิชาการด้านโภชนาการขื่อดังของเมืองไทย
- KU 29 Food Science
- โดย สุทธิชัย หยุ่น
1 มี.ค. 64
22 พ.ค. 63
1 พ.ค. 63